วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ประวัติ โลธาร์ มัทเธอุส

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โลธ่าร์ มัทเธอุส

ซูเปอร์แมน" โลธาร์ มัทเธอุส อาจเป็นหมายเลข 10 ที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้มีลีลาสวยงามมากมายนัก แต่ถ้าพูดถึงความทรงพลังและประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าคุณสมบัติในฐานะนักฟุตบอลของเขามีไม่แพ้ใคร เขาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 เมื่อในนัดชิงชนะเลิศ เป็นคนรับหน้าที่ตามประกบดิเอโก้ มาราโดนา แบบถึงพริกถึงขิงไม่ยอมปล่อยให้หายใจง่ายๆ

มัทเธอุสคือตัวแบบของนักเตะในสไตล์เยอรมันขนานแท้ ที่อาจไม่ได้มีจินตนาการสร้างสรรค์ล้นเหลือ แต่มีความฟิต แข็งแกร่ง และรวดเร็ว จนอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นกองกลางประเภท "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์" ที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง

ส่วนในระดับสโมสร เขายังเป็นหัวใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะขยับลงมาเล่นเป็นตัวลิเบอโรในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง นอกจากนี้ มัทเธอุสยังครองสถิติเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 นัด มากกว่านักฟุตบอลคนใดที่เคยค้าแข้งมา

คำนิยามของมาราโดนาที่บอกว่า มัทเธอุสเป็น "คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมี" น่าจะนิยามความยอดเยี่ยมของขุนพลอินทรีเหล็กหมายเลข 10 

ประวัติ ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แกร์ด มุลเลอร์

ฟรันซ์ อันทอน เบคเคนเบาเออร์ (เยอรมัน: Franz Anton Beckenbauer) เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1945 ที่มิวนิค เป็นผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีม และอดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมัน มีฉายาว่า Der Kaiser ("จักรพรรดิ") อันเนื่องจากการเล่นที่งดงาม ความเป็นผู้นำ และชื่อของเขา "ฟรันซ์" (มาจากชื่อจักรพรรดิออสเตรีย) และความโดดเด่นในการเล่นฟุตบอลของเขา เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นนักฟุตบอลเยอรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เบคเคนเบาเออร์เป็นนักฟุตบอลที่เล่นได้หลายตำแหน่ง โดยเริ่มจากการเป็นกองกลาง แต่เลื่องชื่อด้านการเป็นกองหลัง เขายังมักได้รับยกย่องว่าเป็นผู้คิดตำแหน่งสวีปเปอร์ หรือ ลีเบโร สมัยใหม่

เขาได้รับเลือกเป็นผู้เล่นยุโรปแห่งปี 2 ครั้ง เขาลงแข่งให้กับฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีตะวันตก 103 นัด ในฟุตบอลโลก 3 ครั้ง เขายังเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เป็นกัปตันทีมและผู้จัดการทีมให้กับประเทศที่ชนะฟุตบอลโลก เขาได้ถ้วยฟุตบอลโลกในฐานะกัปตันทีมในปี 1974 และได้อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมชาติในฟุตบอลโลก 1990 และกับสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค เขาได้ถ้วยยุโรป 3 ครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1974 ถึง 1976 และคัปวินเนอร์สคัปในปี ค.ศ. 1967 เบคเคนเบาเออร์เป็นผู้เล่นคนเดียวที่เป็นกัปตันทีมที่ชนะในถ้วยยุโรป 3 ครั้ง เขาเปลี่ยนมาเป็นผู้ฝึกสอนและประธานของสถาบัน และยังมีรายชื่ออยู่ในหอเกียรติยศฟุตบอลแห่งชาติ

ในปี ค.ศ. 1999 เขาได้รับลงคะแนนเป็นที่ 2 ตามหลังโยฮัน ครัฟฟ์ ในฐานะนักฟุตบอลยุโรปแห่งศตวรรษ ที่จัดขึ้นโดยสมาพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลนานาชาติ (IFFHS) และได้ที่ 3 ตามหลังเปเล่และครัฟฟ์ ของ "นักฟุตบอลแห่งศตวรรษ" ปัจจุบันเบคเคนเบาเออร์ยังคงเป็นผู้มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลเยอรมันและทีมชาติ เขาเป็นผู้นำให้เยอรมนีชนะการประมูลการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2006 และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการการจัดการ เขายังทำงานในฐานะผู้รู้ในวงการโทรทัศน์เยอรมัน ช่องแซท.1 ในช่วงการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและเขียนคอลัมน์ฟุตบอล

ประวัติ แกร์ด มึลเลอร์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แกร์ด มุลเลอร์
แกร์ฮาร์ท "แกร์ด" มึลเลอร์ (เยอรมัน: Gerhard "Gerd" Müller) เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1945 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมัน เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ทำประตูสูงสุด เขาทำสถิติยิงประตูในนัดทีมชาติ 68 ประตูในการลงแข่ง 62 นัด ยิงประตู 365 ประตูในบุนเดสลีกา มึลเลอร์ติดอยู่ในอันดับ 6 ของผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาล เนื่องจากเขาลงแข่งน้อยกว่าผู้เล่นอื่นใน 15 อันดับแรก

               ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม แกร์ฮาร์ท มึลเลอร์
เกิด 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1945 (72 ปี)
เกิดที่ เนิร์ดลิงเงิน เยอรมนี
สูง 1.76 เมตร (5 ฟุต 9.3 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองหน้าตัวเป้า
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน บาเยิร์นมิวนิก II (ผู้ช่วยผู้จัดการ)
ชุดเยาวชน
1960–1963 1861 เนิร์ดลิงเงิน
ชุดใหญ่*
ปี ทีม ลงเล่น† (ประตู)†
1963–1964 1861 เนิร์ดลิงเงิน
1964–1979 บาเยิร์นมิวนิก
1979–1981 ฟอร์ตลอเดอร์เดลสไตรเกอส์
รวม 565 (489)
ทีมชาติ
1966 เยอรมนีตะวันตก ชุดยู 
1966–1974 เยอรมนีตะวันตก

ประวัติ ฟิลิปป์ ลาห์ม

Philipp Lahm Training 2017-03 FC Bayern Muenchen-3.jpg 
ฟิลิปป์ ลาห์ม (เยอรมัน: ฟิลิปป์ ลาห์ม ) เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1983 ที่เมืองมิวนิก แคว้นบาวาเรีย เป็นนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี และเล่นให้ สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ในปัจจุบันพร้อมกับเป็นกัปตันทีมคนปัจจุบันของบาเยิร์นมิวนิก และเป็นผู้ทำประตูแรกของฟุตบอลโลก 2006 ให้กับทีมชาติเยอรมนีในนาทีที่หก ลาห์มติดทีมชาติเยอรมนีครั้งแรกในนัดที่เยอรมนีเอาชนะโครเอเชียไป 2-1 ประตู เมื่อปี ค.ศ. 2004
                                                                                                                                                                 
หลังจบฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเยอรมนีที่มีลาห์มเป็นกัปตันทีมได้แชมป์โลก ลาห์มได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดและไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกเลย ลาห์มในวัยเพียง 30 ปี ประกาศยุติการเล่นให้กับทีมชาติเพื่อเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลรุ่นหลังขึ้นมาแทนที่ ทั้งที่ลาห์มในขณะนั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง) เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1983 ที่เมืองมิวนิก แคว้นบาวาเรีย เป็นนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี และเล่นให้ สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ในปัจจุบันพร้อมกับเป็นกัปตันทีมคนปัจจุบันของบาเยิร์นมิวนิก และเป็นผู้ทำประตูแรกของฟุตบอลโลก 2006 ให้กับทีมชาติเยอรมนีในนาทีที่หก ลาห์มติดทีมชาติเยอรมนีครั้งแรกในนัดที่เยอรมนีเอาชนะโครเอเชียไป 2-1 ประตู เมื่อปี ค.ศ. 2004

หลังจบฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเยอรมนีที่มีลาห์มเป็นกัปตันทีมได้แชมป์โลก ลาห์มได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดและไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกเลย ลาห์มในวัยเพียง 30 ปี ประกาศยุติการเล่นให้กับทีมชาติเพื่อเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลรุ่นหลังขึ้นมาแทนที่ ทั้งที่ลาห์มในขณะนั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง

ประวัติ มานูเอล เพเทอร์ นอยเออร์

Manuel Neuer 2012 (cropped).jpg
            มานูเอล เพเทอร์ นอยเออร์  เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1986 ที่เมืองเกลเซนเคียร์เชิน ประเทศเยอรมนี เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมัน เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ให้กับสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก และฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี

นอยเออร์คว้าชัยชนะร่วมกับทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รวมถึงรางวัลถุงมือทองคำจากการที่เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และได้รับขนานนามว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกนับตั้งแต่ เลฟ ยาชิน

ในปี ค.ศ. 2014 นอยเออร์ได้คะแนนโหวตในรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ เป็นอันดับสาม รองจากเลียวเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด ปีเดียวกัน นอยเออร์ได้ถูกจัดอันดับเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกอันดับสาม นอยเออร์เซ็นต์สัญญาเป็นผู้เล่นตัวจริงในปี ค.ศ. 2005 หลังจากผ่านการอบรมในทุกช่วงอายุของสโมสรบ้านเกิด เขาเปิดตัวในบุนเดสลีกาเมื่อเขาลงแข่งแทนฟรังก์ รอสท์ในฤดูกาล 2006-2007 ดวัยเพียง 20 ปี เขาก็สามารถดำรงตำแหน่งนี้แทนรอสท์ที่ฟอร์มตกลงจากนัดที่พบกับบาเยิร์น มิวนิกด้วยวัยเพียงเท่านี้ เขาได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นผู้มารับตำแหน่งต่อจาก เยนส์ เลห์มันน์ ให้กับทีมชาติเยอรมนี

วันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.​ 2008 ในรอบแรกของการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกซึ่งพบกับสโมสรฟุตบอลโปร์ตู นอยเออร์ได้ช่วยประคองทีมด้วยการเซฟ และทำให้เกมดำเนินไปจนถึงการยิงลูกโทษ อีกทั้งเขายังสามารถเซฟลูกโทษของ บรูนู อัลวึชและ ลีซังดรู โลปึช ทำให้ชาลเกสามารถผ่านเข้าไปยังรอบก่อนชิงชนะเลิศ(ควอร์เตอร์ไฟนอล)ได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีจากยูฟ่า เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดและเป็นผู้เล่นคนเดียวจากบุนเดสลีกาที่มีชื่อติดอยู่ในรายชื่อ เขายังเป็นผู้เล่นเพียง1ใน3ที่ลงเล่นทุกนาทีในทุกนัดบุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2007-2008

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

ประวัติ โอลิเวอร์ คาห์น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โอลิเวอร์ คาห์น

             คาห์น เริ่มต้นการค้าแข้งอาชีพกับคาร์ลสรูห์ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิดเมื่อปี 1987 ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม "เสือใต้" เมื่อปี 1994 และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของวงการฟุตบอลเยอรมัน เมื่อคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ถึง 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, ยูฟ่า คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และอินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ อย่างละสมัย นอกจากนั้น ยังคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรป 4 ปีติดต่อกันด้วย

             หลังจากที่ใช้เวลาในการเป็นตัวสำรองอยู่ 3 ปีที่คาร์ลสรูห์ คาห์น ก็ได้รับโอกาสให้ลงเป็น 11 คนแรกเมื่อปี 1990 ภายใต้การคุมทีมของ วิลเฟรด เชเฟอร์ และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังเมื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทีมมาตลอดซึ่งรวมถึงการพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1993-94
             ผลงานการป้องกันประตูที่เหนียวหนึบของเขา ทำให้บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจทุ่มเงิน 2.5 ล้านยูโร (ราว 125 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของผู้รักษาประตูในเวลานั้น เพื่อดึงตัวมาเฝ้าเสาให้ในฤดูกาล 1994-95 และเป็นนายด่านเบอร์ 1 ของทีม "เสือใต้" มาอย่างโดยตลอดในปี 1999 "คิง คาห์น" ก็ต้องพบกับความชอกช้ำอย่างหนักเมื่อบาเยิร์น พลาดท่าพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามคัมป์ นู เมื่อเขาเสีย 2 ประตูในนาทีสุดท้ายและช่วงทดเวลา ทำให้ "ปีศาจแดง" แซงชนะไปอย่างเจ็บแสบ 2-1 จนกลายเป็นที่ขนานนามกันว่า "โศกนาฎกรรมแห่งคัมป์ นู"
             อย่างไรก็ตาม ในอีก 2 ปีต่อมา คาห์น ก็แก้ตัวได้สำเร็จเมื่อถูกเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อพาบาเยิร์น คว้าเหรียญชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนชนะ บาเลนเซีย ในการดวลจุดโทษ และเป็นการพา "เสือใต้" เป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 4 ด้วย


ประวัติ สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติ สเตฟาน เอฟเฟนแบร์ก

                          ย้อนรอยตำนานพี่เสือ  สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก (จอมห้าวหัวเสือ)                    
             สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก (จอมห้าวหัวเสือ) กองกลางพันธ์ดุ เขามีทักษะและความเป็นผู้นำที่     ยอดเยี่ยมรวมถึงพฤติกรรมทั้งในและนอกสนามที่สุดโต่ง ในช่วงที่อยู่กับบาเยิร์นมิวนิค เขาคือผู้นำที่โดดเด่นที่สุด เป็นกองกลางที่ทรงพลัง และมีเทคนิครอบตัว การวางบอล จ่ายบอล  รวมถึงการเข้าสกัดที่ดุเด็ดเร้าใจ จนสามารถเรียกใบเหลืองได้ถึง 109 ใบตลอดอาชีพการค้าแข้ง เอฟเฟ่เล่นให้ทีมชาติเยอรมันเพียง 35 เกม เนื่องมาจากความห้าว และมีแนวทางเป็นของตัวเอง รวมถึงเหตุการณ์การชูนิ้วกลางอันลือลั่น                                                                     
             เอฟเฟ่ เกิด และเติบโตที่ฮัมบูร์ก เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1968, สเตฟาน เริ่มอาชีพของเขากับโบรุสเชีย มึนเช่นกลัดบัค ด้วยวัยเพียง 20 ปี โดยได้รับความสนใจจากบาเยิร์น มิวนิค  ก่อนที่เขาจะย้ายมา  ในปี 90 พร้อมทำ 19 ประตูจาก 2 ฤดูกาลที่อยู่ถ้ำเสือ เอฟเฟ่ย้ายจากบาเยิร์นไปฟิออเรนติน่า      เพราะการกลับมาของมัทเธอุส ในปี 92 ปีแรกในอิตาลี เขาตกชั้นกับฟิออ     ทั้งๆที่ในทีมมีสตาร์อย่างเลาดรู๊ป และบาติสตูต้า                                                                                                                             
             ก่อนจะย้ายกลับไปกลัดบัคอีกครั้งในปี 94ก่อนรีเทิร์นสู่ถ้ำเสือเพื่อมาสร้างตำนานในปี98         พร้อมคว้าแชมป์บุนเดส 3 ปีติดกับบาเยิร์น และเข้ารอบชิงแชมปเปี้ยนลีกอีก 2 ครั้ง ในปี 99(ที่คงไม่มี   ใครอยากจำ) และปี 2001 ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ โดยจอมห้าวหัวเสือ เป็นคนยิงจุดโทษในเกมและชนะในการดวลจุดโทษ พร้อมประกาศความเป็นผู้นำแบบเต็มตัว ในปีนั้นเอฟเฟ่ถูกเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพี่เสือตลอดกาล  

ประวัติ โลธาร์ มัทเธอุส

ซูเปอร์แมน" โลธาร์ มัทเธอุส อาจเป็นหมายเลข 10 ที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้มีลีลาสวยงามมากมายนัก แต่ถ้าพูดถึงความทรงพลังและประสิ...